16. ข้อจำกัดในการวิจัย
( Limitation )/ ขอบเขตการทำวิจัย
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 เป็นการระบุให้ทราบว่าการวิจัยที่จะศึกษามีขอบข่ายกว้างขวางเพียงใด
เนื่องจากผู้วิจัยไม่สามารถทำการศึกษาได้ครบถ้วนทุกแง่ทุกมุมของปัญหานั้น จึงต้องกำหนดขอบเขตของการศึกษาให้แน่นอน
ว่าจะครอบคลุมอะไรบ้าง ซึ่งอาจทำได้โดยการกำหนดขอบเขตของเรื่องให้แคบลงเฉพาะตอนใดตอนหนึ่งของสาขาวิชา
หรือกำหนดกลุ่มประชากร สถานที่วิจัย หรือระยะเวลา
ไพศาล วรคำ (2532:12)
ไพศาล วรคำ (2532:12)
1. ขอบเขตของการวิจัยมีจุดประสงค์เพื่อกำหนดขอบเขตของการวิจัยครั้งนี้ให้จำเพาะเจาะจง
ว่าสิ่งใดต้องการวิจัยและสิ่งใดที่ไม่ต้องการวิจัย
2. ขอบเขตของการวิจัย
เป็นการจำกัดขอบเขตในด้านต่าง ๆของการวิจัยให้แคบลงเพื่อไม่ให้งานวิจัยมีขอบเขตการศึกษากว้างขวางจนเกินไป
ซึ่งหมายถึงสาระหรือวัตถุประสงค์หรือประเด็นต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยต้องการจะศึกษารวมทั้งประเภทและลักษณะของประชากรที่เป็นเป้าหมายของการศึกษา
3. รูปแบบการเขียน
ขอบเขตการวิจัยเขียนให้ประกอบด้วย 5
เรื่อง
- ขอบเขตเกี่ยวกับประเด็นหลักในชื่อเรื่อง
- ขอบเขตเกี่ยวกับประชากรในการวิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับพื้นที่ที่ใช้วิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับเวลาที่ทำวิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับตัวแปร
4. การเขียนขอบเขตการวิจัยมีหลักการทั่วไปดังนี้
4. การเขียนขอบเขตการวิจัยมีหลักการทั่วไปดังนี้
- เขียนเป็นข้อๆหรืออาจเขียนพรรณนาก็ได้
- เขียนให้ขยายความขอบเขตที่ระบุไว้ในชื่อเรื่องการวิจัย
- เขียนโดยใช้คำที่แสดงถึงขอบเขต เช่น คำว่า ‘ศึกษาเฉพาะ’ ‘ครอบคลุมถึง’ หรือ
’ไม่รวมถึง’ หรือจบด้วย ‘เท่านั้น’
http://ajdusadee-dusadee.blogspot.com/2011/01/blog-post.htm ขอบเขตของงานวิจัย(
boundary of research problem ) มักพบเจอในการเขียนบทที่
1 การกำหนดขอบเขตของการวิจัยนี้ เกี่ยวข้องใกล้ชิด
กับการกำหนดปัญหาการวิจัยที่ชัดเจน ลักษณะของขอบเขตของการวิจัยมีประเด็นที่ควรกล่าวถึง
ประกอบด้วย ขอบเขตด้านกลุ่มตัวอย่างหรือ กลุ่มผู้ร่วมวิจัย
ที่ต้องระบุว่ามีลักษณะเช่นใด เกี่ยวกับ ชาติพันธุ์ เพศ
เศรษฐกิจและสังคมที่จะทำให้ผู้อ่านงานวิจัย หรือนักวิจัยเองทราบว่า
การตีความข้อค้นพบหรือ ผลจากการวิจัย ทำภายในขอบเขตเช่นไร เช่น
การวิจัยเพื่อสร้างโมเดล การออมเงินของ นักศึกษามหาวิทยาลัย ขอบเขตของการตีความก็อยู่ในบริบทของอายุ
และสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของนักศึกษามหาวิทยาลัย ขอบเขตด้านทฤษฎี อาจประกอบด้วยการระบุชื่อของทฤษฎีที่ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง
การตีความต้องอยู่บนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีนั้น ในงานวิจัยระดับปริญญาเอก
โท ของหลายมหาวิทยาลัยเวลาระบุเกี่ยวกับขอบเขตไปใส่หัวข้อว่ากลุ่มตัวอย่าง ตัวแปรต้น
ตัวแปรตาม นั้นเป็นการเขียนที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขต แต่มิได้เป็นการระบุขอบเขตที่ควรทำเพราะให้ข้อมูลในระดับปฏิบัติการมากการให้ข้อมูลระดับconcept
สรุป
เป็นการระบุให้ทราบว่าการวิจัยที่จะศึกษามีขอบข่ายกว้างขวางเพียงใด เนื่องจากผู้วิจัยไม่สามารถทำการศึกษาได้ครบถ้วนทุกแง่ทุกมุมของปัญหานั้น
จึงต้องกำหนดขอบเขตของการศึกษาให้แน่นอน ว่าจะครอบคลุมอะไรบ้าง ซึ่งอาจทำได้โดยการกำหนดขอบเขตของเรื่องให้แคบลงเฉพาะตอนใดตอนหนึ่งของสาขาวิชา
รูปแบบการเขียนขอบเขตการวิจัยประกอบด้วย 5 เรื่อง
- ขอบเขตเกี่ยวกับประเด็นหลักในชื่อเรื่อง
- ขอบเขตเกี่ยวกับประชากรในการวิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับพื้นที่ที่ใช้วิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับเวลาที่ทำวิจัย
- ขอบเขตเกี่ยวกับตัวแปร
การเขียนขอบเขตการวิจัยมีหลักการทั่วไปดังนี้
การเขียนขอบเขตการวิจัยมีหลักการทั่วไปดังนี้
- เขียนเป็นข้อๆหรืออาจเขียนพรรณนาก็ได้
- เขียนให้ขยายความขอบเขตที่ระบุไว้ในชื่อเรื่องการวิจัย
- เขียนโดยใช้คำที่แสดงถึงขอบเขต เช่น คำว่า ‘ศึกษาเฉพาะ’ ‘ครอบคลุมถึง’ หรือ
’ไม่รวมถึง’ หรือจบด้วย ‘เท่านั้น’
อ้างอิง
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921. เข้าถึงเมื่อ10/12/55
ไพศาล วรคำ. (2532). การวิจัยทางการศึกษา. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์.
http://ajdusadee-dusadee.blogspot.com/2011/01/blog-post.html.
เข้าถึงเมื่อ10/12/55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น